แบกเป้ / นั่งแอร์แอเชีย / เช่า pocket wifi เที่ยวญี่ปุ่น กับวันชิลล์ๆที่อ่าว Matsushima (Sendai)
สวัสดีค่ะ ไปญี่ปุ่นคราวนี้ได้มีโอกาสมาลุย Sendai เป็นครั้งแรกทริป 9 วัน 20/09/2014 – 28/09/2014 โปรแกรมการเดินทางตามนี้ค่ะ โตเกียว 2 วัน, เซ็นได 3 วัน, โอซาก้า 2 วัน กลับมาโตเกียวอีก 1 วัน
ครั้งนี้ จขกท ไปกัน 2 คนกับคนรู้ใจ จะตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะไปเซ็นไดเป็นครั้งแรกจะแวะ Matsushima ที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าสวยที่สุด 1 ในสามของสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า นิฮองซังเคส่วนอีก 2 ที่จำไม่ได้แล้วว่าที่ไหนบ้างแต่มีโอกาสคราวหน้าอยากจะตามไปเก็บเรื่อยๆจนครบค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะสำหรับการเที่ยวที่ราบรื่นในครั้งนี้
Airasia ที่มีตั๋วให้บินในราคาประหยัด www.airasia.com
Japan Wifi ที่ให้สัญญาณไวไฟ ใช้ได้ตลอดทริปและแถมโทรกลับไทยฟรีไม่จำกัด www.jp-wifi.com
Business Hotel ราคาประหยัดในทุกเมืองที่ไปพัก
อื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้เอ่ยนามสำหรับทิปนี้จ้า
เที่ยว Matsushima ใน 1 วันเป็นเส้นทางที่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมของคนไทยกันสักเท่าไหร่ เผื่อท่านใดเห็นแล้วอยากไปบ้างก้อจะได้เป็นข้อมูลนะคะเริ่มจากสถาณีเซ็นได เป็นสถาณีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โทโฮกุ เลยค่ะแต่ถ้าเทียบกับสถาณีหลักอย่างโตเกียว อุเอะโนะแล้วถือว่าเล็กมากๆ เซ็นไดเป็นเมืองที่มีครบทุกอย่างและประชากรไม่หนาแน่น บรรยากาศคล้ายๆเชียงใหม่มั้งค่ะเปรียบเทียบไม่ถูกค่ะ
นั่งรถไฟสาย Senseki ชานชลาที่ 10 ราคา 320 เยน เพื่อมุ่งหน้าไป Matsushima-kaigan ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
แต่เราลงสถาณีก่อนหน้านั้นคือสถาณี Hon-Shiogama จะมีห้าง อิออน ให้เดินลัดห้างไปจะเจอท่าเรือ Marine Gate
Matsushima คือ หมู่เกาะหินปูนที่กระจายกันรอบๆอ่าว กว่า 200 เกาะซึ้งบนเกาะหล่านี้จะมีแค่ต้นสน Matsu เท่านั้นที่ขึ้นอยู่บนเกาะได้และตัวเกาะจะถูกน้ำและลมกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นเวลานาน ทำให้เกาะมีรูปร่างแปลกๆสวยงามตามธรรมชาติค่ะตั๋วราคา 1,500 เยน พร้อมแผนที่ (ที่เห็นมือดำๆนั่นไม่ใข่มือเรานะค่ะมือแฟนค่ะ)
อลำนี้แหละพร้อมจะออกแล้วว ผู้โดยสารมีประปรายไม่แน่น อืมทำไมมีแต่คนญี่ปุ่น
เรือออกแล้ว เริ่มเห็นเกาะเล็ก เกาะน้อย รูปร่างแปลกๆ ดูแล้วสวยดีค่ะ เรื่อลำอื่นสวยมา ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่อาจจะเพราะยังเช้าอยู่ก้อได้
เกาะนี้โดนลมและน้ำเซาะจนเป็นรูปร่างแบบนี้เลยค่ะ
มีแต่เกาะหินปูนกับต้นสน Matsu
ลองเอา pocket wifi ขึ้นมาดูสัญญาณ อยู่กลางทะเลสัญญาณยังเต็ม ส่งรูปไลน์อัปตลอดเวลา เจ้านี้ใช้สัญญาณของ NTT Docomo ออกมาจากฝั่งไกลพอสมควรยังเชื่อมต่อได้ปกติ จขกท เช่าจากไทย www.jp-wifi.com แถมโทรกลับไทยฟรี Chaiyocall เพราะต้องใช้โทรหาที่บ้านเสียงชัดดีแต่มีแอบโทรไม่ติดบ้างบางจังหวะต้องกดซ้ำ โดยรวมถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
ใกล้ถึงฝั่งแล้วค่ะ ท่าเรือ Matsushima คนเยอะและคึกคักมากปกติคนจะขึ้นและลงที่ท่าเรือนี้วนเป็นรอบขึ้นและลงที่จุดเดิมไม่เหมือน จขกท ขึ้นและลงคนละท่าเรือกัน
เดินไปเรื่อยๆตามคนญี่ปุ่นไป เจอเหมือนเป็นวัดเล็กๆ บนเกาะติดชายฝั่งคืออะไรรีบไปดูกันเร๊ว ข้ามสะพานแดงไปเจอแล้วน่าจะเป็นวัดหรือศาลเจ้าเล็กๆ ดูขลังดี
เดินลงมาเจอร้านขายของกิน ต้องแวะเติมพลังก่อนอาหารขึ้นชื่อของเซ็นไดคือ ตัวเดียวอันเดียวของวัวต้องลองซะแล้วว สั่งกิวตังมาทานดูก้อคือลิ้นวัว นั่นเองค่ะอาหารขึ้นชื่อของเซ็นไดไม้ใหญ่ๆแบบนี้ 600 เยนนะคะอร่อยมาก
ลิ้นวัวอย่างเดียวไม่พอซะแล้ว เดินไปอีกนิดเจอโคมไฟไอศครีมยักษ์เลยต้องแวะลอง รสลูกพีช สุดยอดความอร่อย
ยังไม่หมดเดินเรื่อยๆมาเจอลูกชิ้นปลายักษ์ kamaboko ต้องแวะเข้าไปดูหน่อยต้องย่างเองด้วยแต่ย่างเพลินนานไปหน่อยจนดำก้อต้องยกให้แฟนทานค่ะ
ถัดไปหน่อยเป็นทางเข้าวัด zuiganji ถือเป็นวัดที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งและเป็นวัดสำคัญในเซนไดผ่านประตูทางเข้าวัดเป็นต้นสนใหญ่ เหมือนป่าสนดูเงียบสงบมาก สวยมากค่ะ
ระหว่างทางเดินเข้าวัด จะเจออุโมงค์ซึ่งในอดีตที่ผู้เลื่อมใสมาปฏิบัตธรรมจนเยอะล้นวัดและไม่มีที่จำวัดเลยต้องขุดหน้าผาหินเป็นช่องๆสำหรับอยู่อาศัยและปฏิบัติธรรม
พอมาถึงทางเข้าไปในตัววัดและมีพิพิธภัณท์อยู่ข้างในต้องซื้อตั๋วราคาคนละ 700 เยน เนื่องจาก จขกท ไม่มีเวลาเพราะตอนเย็นนัดเจอเพื่อนในตัวเมืองเซ็นไดเลยไม่ได้เข้าไปดูข้างใน
ได้เวลาเดินทางกลับตัวเมืองเซ็นไดแล้วค่ะ ก้อขึ้นรถไฟสายเดิมที่สถาณี Mtsushima kaiganสถาณีเล็กๆแต่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแน่นมากค่ะ กลับถึงเซ็นไดใช้เวลาประมาณ 40 นาที